ทีโอที ขยับรุกบรอดแบนด์ เผยรายได้เกือบเท่าฟิกซ์ไลน์ คาดปีนี้ 8,000 ล้านบาท ล่าสุด เร่งปูพรมบรอดแบนด์ 2 เมกะบิต 199 บาท เจาะรากหญ้า หมายสร้างมาตรฐานเร็วอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงขั้นต่ำให้คนไทย ตั้งเป้า 2 เดือนกวาดผู้ใช้บริการขั้นต่ำ 50,000 ราย
นายนพณัฏฐ์ หุตะเจริญ รักษาการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ทีโอที มีนโยบายเชิงรุกธุรกิจอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง หรือบรอดแบนด์มากขึ้น เพื่อสนับสนุนโครงการบรอดแบนด์แห่งชาติของรัฐบาล โดยปีนี้จะมีโครงการลงทุนโครงข่ายหลายโครงการที่สนับสนุนโครงการดังกล่าว และการให้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงของทีโอที ทั้งโครงการปรับเปลี่ยนโครงข่ายไปสู่เอ็นจีเอ็น (Next Generation Network) มูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท หรือการจัดซื้ออุปกรณ์สื่อสารติดตั้งตามชุมสายโทรศัพท์ติดตั้งอุปกรณ์ชุมสาย Multi Service Access Node (MSAN) จำนวน 3,415 แห่ง รองรับการทำตลาดบรอดแบนด์ 577,000 ราย มูลค่า 3,042 ล้านบาท ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือนเมษายน หรือพฤษภาคมนี้ หรือโครงการไฟเบอร์ทูเดอะโฮม หรือ FTTH ที่ปีนี้จะขยายการให้บริการไปทั่วประเทศ
ล่าสุดได้เปิดตัวโครงการไทยเน็ต ซึ่งเป็นบริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง 2 เมกะบิต ราคา 199 บาท ต่อเดือน สามารถใช้งานได้ 60 ชั่วโมง หากใช้งานเกินคิดค่าบริการเพิ่มชั่วโมงละ 10 บาท แต่อัตราค่าบริการไม่เกิน 490 บาท โดยโครงการไทยเน็ตนั้นเป็นการนำโครงข่ายเดิมที่มีอยู่มาให้บริการให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยที่ผ่านมามีผู้ใช้โทรศัพท์พื้นฐานทีโอที 3.5 ล้านราย แต่มีผู้ใช้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงเพียง 1 ล้านราย ดังนั้นจึงมีโอกาสขยายผู้ใช้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงได้อีกเป็น 2.5 ล้านราย อีกทั้งยังเป็นการสนับสนุนโครงการบรอดแบนด์แห่งชาติ โดยเปิดให้ผู้ที่ต้องการเข้าถึงบริการอินเตอร์เน็ต สามารถใช้อินเตอร์เน็ตความเร็วเพียงพอต่อการใช้งาน แต่มีราคาประหยัด
นอกจากนี้ยังต้องการสร้างมาตรฐานความเร็วขั้นต่ำที่ประชาชนสามารถเข้าถึงขึ้นมา ซึ่งเชื่อว่าน่าจะช่วยกระตุ้นตลาดบรอดแบนด์ให้เติบโตขึ้น โดยมีทางเลือกในการเข้าถึงอินเตอร์เน็ต นอกเหนือจากแพ็กเกจของผู้ให้บริการเอกชนรายอื่นที่ให้บริการที่อัตรา 590 บาท ส่วนเอกชนจะลงมาแข่งขัน หรือลดค่าบริการลงมาหรือไม่นั้น มองว่าอาจเป็นไปได้ที่เอกชนจะมีการเพิ่มความเร็วขึ้นมาแต่มีอัตราค่าบริการเท่าเดิม
สำหรับกลุ่มลูกค้าใหม่จะได้รับสิทธิพิเศษฟรีค่าธรรมเนียมแรกเข้าใช้งานอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงจำนวน 1,000 บาท อย่างไรก็ตามลูกค้าปัจจุบันที่มีความต้องการที่จะใช้แพ็กเกจนี้และไม่ติดสัญญาสามารถเปลี่ยนแพ็กเกจได้เลยหากติดสัญญาเดิมเสียค่าธรรมเนียม 1,000 บาท สามารถเปลี่ยนมาใช้แพ็กเกจนี้ได้ ผู้ที่สมัครและใช้งานแพ็กเกจ " Thai Net" ได้รับสิทธิ์ซื้อโมเด็มในราคาพิเศษ 1 รายการ คือ Dual Port ราคา 500 บาท หรือ ไวร์เลส ราคา 1,250 บาท โดยแพ็กเกจ "ไทยเน็ต" มีระยะเวลาโปรโมชันตั้งแต่วันนี้ - 30 เมษายน 2554 ซึ่งคาดว่าจะมีลูกค้าขั้นต่ำ 50,000 ราย อย่างไรก็ตามหากมีความต้องการลูกค้าเข้ามาเพิ่มก็พร้อมจะขยายระยะเวลาออกไป
ส่วนในพื้นที่ห่างไกลที่โครงข่ายไม่สามารถเข้าถึง ทีโอที ก็มีโครงการถนนไร้สาย ซึ่งเป็นบริการอินเตอร์เน็ตไร้สาย หรือ ไวไฟ ความเร็ว 2 เมกะบิต ราคา 199 บาท ที่ได้เปิดนำร่องไปแล้ว 10 จังหวัด อาทิ พิษณุโลก ได้มีการติดตั้งอุปกรณ์รับส่งสัญญาณไวไฟ ไปแล้ว 60 จุด หรือ นครศรีธรรมราช 85 จุด ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้รับการตอบรับจากประชาชนค่อนข้างดี โดยมียอดการซื้อบัตรพรีเพด เข้ามาเป็นจำนวนมาก
นายนพณัฏฐ์ กล่าวต่ออีกว่า ปีนี้บริษัทคาดว่าจะมีตัวเลขผู้ใช้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงเพิ่มขึ้น 230,000-250,000 ราย โดยคาดว่าจะเป็นผู้ใช้ต่างจังหวัด 150,000 ราย และกรุงเทพฯและปริมณฑล 100,000 ราย ส่วนรายได้จากบริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงนั้นคาดว่าในปีนี้จะมีรายได้ 8,000 ล้านบาท จากเดิมปีที่ผ่านมามีรายได้ประมาณ 7,400 ล้านบาท โดยตัวเลขรายได้จากบริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงนั้นขยับเข้าใกล้ตัวเลขรายได้จากบริการโทรศัพท์พื้นฐาน หรือ ฟิกซ์ไลน์มากขึ้น
นายนพณัฏฐ์ หุตะเจริญ รักษาการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ทีโอที มีนโยบายเชิงรุกธุรกิจอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง หรือบรอดแบนด์มากขึ้น เพื่อสนับสนุนโครงการบรอดแบนด์แห่งชาติของรัฐบาล โดยปีนี้จะมีโครงการลงทุนโครงข่ายหลายโครงการที่สนับสนุนโครงการดังกล่าว และการให้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงของทีโอที ทั้งโครงการปรับเปลี่ยนโครงข่ายไปสู่เอ็นจีเอ็น (Next Generation Network) มูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท หรือการจัดซื้ออุปกรณ์สื่อสารติดตั้งตามชุมสายโทรศัพท์ติดตั้งอุปกรณ์ชุมสาย Multi Service Access Node (MSAN) จำนวน 3,415 แห่ง รองรับการทำตลาดบรอดแบนด์ 577,000 ราย มูลค่า 3,042 ล้านบาท ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือนเมษายน หรือพฤษภาคมนี้ หรือโครงการไฟเบอร์ทูเดอะโฮม หรือ FTTH ที่ปีนี้จะขยายการให้บริการไปทั่วประเทศ
ล่าสุดได้เปิดตัวโครงการไทยเน็ต ซึ่งเป็นบริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง 2 เมกะบิต ราคา 199 บาท ต่อเดือน สามารถใช้งานได้ 60 ชั่วโมง หากใช้งานเกินคิดค่าบริการเพิ่มชั่วโมงละ 10 บาท แต่อัตราค่าบริการไม่เกิน 490 บาท โดยโครงการไทยเน็ตนั้นเป็นการนำโครงข่ายเดิมที่มีอยู่มาให้บริการให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยที่ผ่านมามีผู้ใช้โทรศัพท์พื้นฐานทีโอที 3.5 ล้านราย แต่มีผู้ใช้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงเพียง 1 ล้านราย ดังนั้นจึงมีโอกาสขยายผู้ใช้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงได้อีกเป็น 2.5 ล้านราย อีกทั้งยังเป็นการสนับสนุนโครงการบรอดแบนด์แห่งชาติ โดยเปิดให้ผู้ที่ต้องการเข้าถึงบริการอินเตอร์เน็ต สามารถใช้อินเตอร์เน็ตความเร็วเพียงพอต่อการใช้งาน แต่มีราคาประหยัด
นอกจากนี้ยังต้องการสร้างมาตรฐานความเร็วขั้นต่ำที่ประชาชนสามารถเข้าถึงขึ้นมา ซึ่งเชื่อว่าน่าจะช่วยกระตุ้นตลาดบรอดแบนด์ให้เติบโตขึ้น โดยมีทางเลือกในการเข้าถึงอินเตอร์เน็ต นอกเหนือจากแพ็กเกจของผู้ให้บริการเอกชนรายอื่นที่ให้บริการที่อัตรา 590 บาท ส่วนเอกชนจะลงมาแข่งขัน หรือลดค่าบริการลงมาหรือไม่นั้น มองว่าอาจเป็นไปได้ที่เอกชนจะมีการเพิ่มความเร็วขึ้นมาแต่มีอัตราค่าบริการเท่าเดิม
สำหรับกลุ่มลูกค้าใหม่จะได้รับสิทธิพิเศษฟรีค่าธรรมเนียมแรกเข้าใช้งานอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงจำนวน 1,000 บาท อย่างไรก็ตามลูกค้าปัจจุบันที่มีความต้องการที่จะใช้แพ็กเกจนี้และไม่ติดสัญญาสามารถเปลี่ยนแพ็กเกจได้เลยหากติดสัญญาเดิมเสียค่าธรรมเนียม 1,000 บาท สามารถเปลี่ยนมาใช้แพ็กเกจนี้ได้ ผู้ที่สมัครและใช้งานแพ็กเกจ " Thai Net" ได้รับสิทธิ์ซื้อโมเด็มในราคาพิเศษ 1 รายการ คือ Dual Port ราคา 500 บาท หรือ ไวร์เลส ราคา 1,250 บาท โดยแพ็กเกจ "ไทยเน็ต" มีระยะเวลาโปรโมชันตั้งแต่วันนี้ - 30 เมษายน 2554 ซึ่งคาดว่าจะมีลูกค้าขั้นต่ำ 50,000 ราย อย่างไรก็ตามหากมีความต้องการลูกค้าเข้ามาเพิ่มก็พร้อมจะขยายระยะเวลาออกไป
ส่วนในพื้นที่ห่างไกลที่โครงข่ายไม่สามารถเข้าถึง ทีโอที ก็มีโครงการถนนไร้สาย ซึ่งเป็นบริการอินเตอร์เน็ตไร้สาย หรือ ไวไฟ ความเร็ว 2 เมกะบิต ราคา 199 บาท ที่ได้เปิดนำร่องไปแล้ว 10 จังหวัด อาทิ พิษณุโลก ได้มีการติดตั้งอุปกรณ์รับส่งสัญญาณไวไฟ ไปแล้ว 60 จุด หรือ นครศรีธรรมราช 85 จุด ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้รับการตอบรับจากประชาชนค่อนข้างดี โดยมียอดการซื้อบัตรพรีเพด เข้ามาเป็นจำนวนมาก
นายนพณัฏฐ์ กล่าวต่ออีกว่า ปีนี้บริษัทคาดว่าจะมีตัวเลขผู้ใช้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงเพิ่มขึ้น 230,000-250,000 ราย โดยคาดว่าจะเป็นผู้ใช้ต่างจังหวัด 150,000 ราย และกรุงเทพฯและปริมณฑล 100,000 ราย ส่วนรายได้จากบริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงนั้นคาดว่าในปีนี้จะมีรายได้ 8,000 ล้านบาท จากเดิมปีที่ผ่านมามีรายได้ประมาณ 7,400 ล้านบาท โดยตัวเลขรายได้จากบริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงนั้นขยับเข้าใกล้ตัวเลขรายได้จากบริการโทรศัพท์พื้นฐาน หรือ ฟิกซ์ไลน์มากขึ้น
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,609 13 - 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น